ข่าวประชาสัมพันธ์

รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรเดินทางเยือนไทยกระชับความสัมพันธ์สองประเทศ

เดวิด คาเมรอน เยือนไทย หนึ่งในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นประเทศแรกในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกหลังเข้ารับตำแหน่ง

The Foreign Secretary takes a seat in a Gripen aircraft during his visit to Korat Royal Thai Air Force Base in Thailand.

  • รัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางเยือนไทยในการเยือนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง 
  • รัฐมนตรีต่างประเทศจะเดินทางไปเยี่ยมชมเครื่องบินขับไล่ที่สร้างโดยบริษัทจากสหราชอาณาจักร
  • รัฐมนตรีต่างประเทศจะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรีต่างประเทศไทยเพื่อลงนามในแผนการว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สหราชอาณาจักร-ไทย กระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมและเศรษฐกิจ

ฯพณฯ นายเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาสหราชอาณาจักรจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันพุธที่ 20 มีนาคม เพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนกับไทย ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรจะส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นที่เป็นความสนใจร่วม เช่น กลาโหม เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงเศรษฐกิจและการค้า 

ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางด้านความมั่นคงของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมสันติภาพและความปรองดองในเมียนมา รวมทั้งการพิทักษ์กฎหมายระหว่างประเทศและความมั่นคงในภูมิภาค ทั้งนี้ ด้วยความที่การค้าโลกครึ่งหนึ่งต้องเดินทางผ่านภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การทำงานร่วมกันกับไทยในประเด็นความมั่นคงทางทะเลจึงมีความสำคัญยิ่งในการทำให้สหราชอาณาจักรสามารถเข้าถึงสินค้าที่จำเป็น

 รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่า   

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยไทยเป็นหนึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน การร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคมีส่วนช่วยสร้างการเติบโตและสร้างอาชีพให้เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร    

ไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียนและเป็นประเทศที่มีอิทธิพลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เราจะร่วมมือกันต่อไปเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกที่เรามีร่วมกัน ทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาทางเทคโนโลยีในอัตราเร่งสูง และภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุขทั่วโลก 

ฐมนตรีต่างประเทศจะได้ไปเห็นความเป็นหุ้นส่วนด้านกลาโหมระหว่างสหราชอาณาจักรและไทยที่แน่นแฟ้นมากขึ้น ผ่านการเดินทางเยือนฐานทัพอากาศ และสนับสนุนแคมเปญร่วมในการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องบินกริปเฟน  

กริปเพนเป็นความร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักร สวีเดน และสหรัฐอเมริกา โดยที่มีบริษัทต่าง ๆ ทั่วสหราชอาณาจักรผลิตส่วนประกอบของอากาศยานถึงร้อยละ 40 การจัดซื้อจัดจ้างนี้จะช่วยเสริมสร้างสมรรถนะให้กองทัพอากาศไทย และสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับสหราชอาณาจักร 

เมื่อสามปีก่อน สหราชอาณาจักรได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ราว 500,000 โดส ให้แก่ประเทศไทย ตั้งแต่นั้นมานักวิจัยของสหราชอาณาจักรและไทยได้ร่วมกันทำงานเพื่อทำให้การกระจายวัคซีนคุณภาพสูงและราคาเข้าถึงได้เป็นไปอย่างเป็นธรรมและทันท่วงที  โดยดำเนินการผ่านศูนย์กลางการวิจัยและผลิตวัคซีนของสหราชอาณาจักร-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (UK-South East Asia Vaccine Manufacturing Research Hub) ซึ่งได้ประกาศตั้งไปเมื่อไม่นานนี้  

ในระหว่างการเยือนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรจะพบกับนักวิจัยหลายท่านจากโครงการดังกล่าว และนักประดิษฐ์ที่ทำงานเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านต่าง ๆ ทั้งปัญญาประดิษฐ์จนถึงด้านวิศวกรรมชีวภาพ ในระหว่างการเดินทางเยือน นายเดวิด คาเทรอนประกาศเน้นย้ำความสำคัญของทุน International Science Partnership Fund มูลค่าทั่วโลก 337 ล้านปอนด์ (ราว 15,450 ล้านบาท) เพื่อช่วยให้เกิดความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างนักวิจัยและนวัตกรของสหราชอาณาจักรและไทยเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาท้าทายต่าง ๆ ของโลกและส่งเสริมความมั่งคั่ง โดยโครงการหลัก ๆ ในทุนนี้ประกอบด้วยการรับมือกับโรคที่มีอันตรายร้ายแรง การสร้างเครือข่ายความมั่นคงทางอาหาร และการพัฒนาระบบพลังงานสะอาด 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศยังได้ประกาศเงินทุนสนับสนุนผ่านโครงการ UK PACT (UK Partnering for Accelerated Climate Transitions) สำหรับไทยจำนวน 6 ล้านปอนด์ (ราว 275 ล้านบาท) เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาคการคมนาคมที่ยั่งยืน การเงินสีเขียว และการกำหนดราคาคาร์บอนในประเทศไทย  

นายเดวิด คาเมรอนจะลงนามในแผนการว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สหราชอาณาจักร-ไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหม สภาพภูมิอากาศและพลังงาน การค้าและการลงทุน เกษตรกรรม ดิจิทัลและเเทคโนโลยี สาธารณสุขและการศึกษา ก่อนที่ปี 2568 จะครบรอบ 170 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหราชอาณาจักรและไทย 

ภายหลังจากการเยือนประเทศไทย รัฐมนตรีต่างประเทศจะเดินทางเยือนประเทศออสเตรเลียเพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี AUKMIN ที่ออสเตรเลีย

เผยแพร่เมื่อ 20 March 2024